หนุ่มพิการตาบอดร้องสภาทนายความ หลังถูกดำเนินคดีเสพ ครอบครอง และจำหน่ายยา เผยที่ยอมรับเพราะทนายแนะนำ ...
วันที่ 22 สิงหาคม นายสามารถ สุขสุด อายุ 39 ปี พร้อมญาติ เข้าร้องเรียนสภาทนายความให้ช่วยเหลือด้านคดี หลังถูกศาลตัดสินในคดีเสพยาเสพติด ครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดโดยผิดกฎหมาย เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
โดย นายสามารถ ระบุว่า ตนเองป่วยและเป็นผู้พิการทางสายตา โดยปกติจะอยู่บ้านที่จ.อุทัยธานี เพียงคนเดียว และแม่จะเป็นผู้นำอาหารมาให้กิน ซึ่งเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว มีรุ่นน้องที่เคยรู้จักกันบวชเป็นพระในวัดแห่งหนึ่ง ในตัวเมือง จ.อุทัยธานี ได้มาเยี่ยมที่บ้านพร้อมกับลูกศิษย์วัด และบอกว่ามีอาการปวดหลัง จากนั้นอีก 2 วัน พระรูปนั้นได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับนำอาหาร และยา ที่อ้างว่าแก้ปวดหลังมาฝาก ซึ่งเมื่อตนกินก็ไม่ปวด พระและลูกศิษย์จึงทิ้งยาไว้ให้กินต่อ หลังจากนั้นเพียง 1-2 วัน ก็มีตำรวจมาที่บ้าน ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง จึงเพิ่งทราบว่านั่นเป็นยาเสพติด และจับกุมตนไปทำบันทึกจับกุมพร้อมส่งศาล
ทั้งนี้ แม่ได้จ้างทนายความเป็นเงิน 4 หมื่นบาท ให้ว่าความให้ แต่ทนายระบุ ค่าดำเนินการเพิ่ม รวมจ่ายไปทั้งหมด 6 หมื่นบาท ก่อนจะให้รับสารภาพ เพราะทนายอ้างว่าศาลจะตัดสินให้รอลงอาญา จึงตัดสินใจรับสารภาพ แต่ก็ถูกสั่งจำคุก 4 ปี 9 เดือน จากนั้นประกันตัวเป็นเงิน 4 หมื่นบาท ออกมาเพื่อมาร้องสภาทนายความ ซึ่งยืนยันว่ามองไม่เห็น แม้แต่เงินยังไม่สามารถแยกได้ว่าแบงก์อะไร แล้วจะไปขายยาได้อย่างไร แต่ที่รับสารภาพเพราะทนายบอกให้ทำ อีกทั้งไม่รู้กฎหมาย.